วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

จัดระเบียบบ้าน : ตู้เสื้อผ้า 1

สวัสดีค่ะ วันนี้จะพูดถึงเรื่องการจัดระเบียบบ้าน
การจัดระเบียบบ้านแตกต่างจากการทำความสะอาดบ้าน
เพราะการทำความสะอาด คือการทำให้มันดูสะอาด
ถ้าทำห้องหนังสือ ก็คือการปัด กวาด เช็ด ถูก เอาหนังสือไปรวม ๆ กันที่ใดที่หนึ่ง
แต่การจัดระเบียบ คือการคัด แยก เรียงเป็นหมวดหมู่ และวางในที่ที่เหมาะสม
ฉะนั้นการจัดระเบียบ จึงต่างจากการทำความสะอาด

แน่นอนว่าวันนี้หัวข้อของเราคือตู้เสื้อผ้า ปัญหาโลกแตกของสาว ๆ
มีเสื้อผ้าเต็มตู้แต่บอกว่าไม่มีเสื้อผ้าใส่ แล้วก็ซื้อเข้ามาใหม่ทุกเดือน
หรือหาเสื้อผ้าตัวเก่งไม่เจอ หรือไม่ได้ใส่เสื้อมานาน เมื่อหยิบมาใส่ปรากฎว่าซีด และมีรอยปลวกแทะ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ตู้เสื้อผ้าล้น

เรื่องตู้เสื้อผ้า จะแบ่งออกเป็น 3 ตอน ตอนแรกจะเกี่ยวกับการคัดเลือกเสื้อผ้า
ตอนที่ 2 คือการจัดเสื้อผ้าที่คัดแยกแล้วใส่ตู้
และตอนที่ 3 คือการจัดของจิปาถะ เช่นผ้าห่ม ผ้านวม ผ้าม่าน กระเป๋า ฯลฯ

ก่อนที่จะเริ่ม ขอถามก่อนว่าคุณรู้สึกยังไง เปิดประตูเข้าบ้านมา
แล้วเจอเสื้อผ้าแขวนตามที่ต่าง ๆ ของตัวบ้าน
มีราวตากผ้าในห้องรับแขก ห้องทำงาน
ตู้เสื้อผ้าล้นจนใส่เข้าไปได้ยาก จะหาเสื้อผ้าแต่ละทีเสียเวลาไปเยอะ

ลองคิดดูว่าถ้าคุณเป็นสะใภ้จุฑาเทพ เมื่อหม่อมเอียดมาเยี่ยมบ้าน
แล้วเปิดประตูเข้ามา เห็นสภาพนี้คงเป็นลมหัวใจวายตายไปแล้ว
คุณไม่รู้สึกอะไรกับสภาพที่เป็นอยู่จริง ๆ หรอ

อย่าบอกนะไม่มีเวลา
เพราะถ้าคุณจัดมัน คุณจะไม่เสียเวลาหาเสื้อผ้า ไม่เสียเงินซื้อเสื้อผ้าใหม่
ที่สำคัญไม่เสียสุขภาพด้วย เพราะเสื้อผ้ามันอมฝุ่น

เพราะฉะนั้นแล้วขั้นแรกในการจัดการกับมันคือการเอาเสื้อผ้าทั้งหมดของคุณ ที่มีในบ้าน
ไม่ว่าจะไปซุกที่ใดก็ตามออกมากองรวมกันค่ะ กองเป็นภูเขาไปเลย
คุณจะได้เห็นว่าตัวเองมีเสื้อผ้ามากมายแค่ไหน

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ กองเสื้อผ้า

หลังจากทำใจกับกองภูเขาเสื้อผ้าแล้ว ให้เราหยิบขึ้นมาทีละตัวค่ะ
แล้วถามตัวเองว่าเสื้อตัวนี้จำเป็นไหม ใส่บ่อยแค่ไหน
เสื้อผ้าที่ตัดสินใจง่ายที่สุดคือเสื้อผ้าที่เราหยิบมันมาใส่บ่อย ๆ ค่ะ
ถ้าเราใส่บ่อย แปลว่าเราชอบ ใส่แล้วสวยดูดี มีความสุข
เก็บไว้ค่ะ ในทางตรงกันข้าม เสื้อผ้าที่หยิบขึ้นมา
แล้วบอกตัวเองว่าฉันจะไม่ใส่มันอีก
เช่นเลอะคราบกาแฟซักไม่ออก ไม่มีวันใส่มันแน่ ๆ
ก็โยนทิ้งไปเลยค่ะ 
ให้เลือกจากตัวที่ตัดสินใจง่ายก่อน

ต่อมาจัดการกับเสื้อผ้าที่ตัดสินใจยาก หรือจริง ๆ คุณรู้สึกว่าตัดสินใจง่าย
แต่เป็นการตัดสินใจที่ผิด เช่น เก็บไว้เผื่อผอม
สิบปีที่แล้วก็พูดแบบนี้ ผ่านไป สิบปี 
จากไซต์ S กลายเป็น XL คุณยังคิดว่าจะผอมอีกหรอ
และถึงคุณจะผอมจริง ๆ เสื้อผ้าที่ทั้งเก่า ทั้งซีด
คุณยังจะกล้าเอามาใส่อีกหรือ 

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

ขอกำหนดตัวเลขง่าย ๆ ในการตัดสินใจค่ะ 1,3
ถ้าเสื้อผ้าชุดนั้นเป็นชุดแฟชั่นที่นิยมในช่วงนั้น ๆ และคุณซื้อเพราะมันกำลังฮิต
ถ้าผ่านไปแล้ว 1 ปี ไม่เคยหยิบมาใส่อีกเลย ให้บริจาคไปค่ะ

ถ้าเสื้อผ้าตัวนั้นเป็นชุดที่ไม่ได้แฟชั่นมาก ใส่ได้อยู่ ยังสวย สภาพดี
แต่คุณไม่ได้ใส่มันบ่อย ๆ อาจเพราะเป็นชุดราตรี ชุดไทย
ที่ต้องใส่ออกงาน และงานประเภทนี้ไม่ได้ไปทุกปี
เป็นชุดที่ไม่ตกยุค ถ้าไม่ได้ใส่เลยมา 3 ปีแล้ว ให้ทิ้งไปเลยค่ะ หรือบริจาค

ข้อสังเกตเผื่อหลาย ๆ คนแยกไม่ออก ชุดแฟชั่น คือชุดที่นิยมในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
เช่นปี 70s นิยมกางเกงยีนส์ขาม้า ปี 80s นิยมใส่กางเกงผ้าสีเลื่อม ๆ สะท้อนแสง
เมื่อตกยุคก็ไม่มีใครเอามาใส่กัน มันเชย 
ส่วนกางเกงสแลคสีดำ หรือกางเกงยีนส์ขากระบอก เป็นทรงที่ใส่ได้
ทุกยุค ทุกสมัย ไม่ว่าจะปี 70s 80s 90s จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังนิยมใส่เรื่อยมา

ส่วนใหญ่แล้วเมื่อเราหยิบเสื้อผ้าขึ้นมา แล้วดูมัน ชุดนี้ฉันใส่ เก็บไว้
ชุดนี้ฉันไม่ใส่ ทิ้งไป มันจะมีชุดจำพวกหนึ่ง
คือชุดที่คุณคิดว่าจะใส่ เผื่อได้ใส่ เก็บไว้ก่อนก็ได้ และถ้าเลือกแบบนี้
คนส่วนใหญ่จะเก็บมันเอาไว้ และรกตู้ต่อไปเพราะคุณจะไม่ได้ใส่มันเหมือนตอนที่คิด

ให้ใช้วิธีของ การจัดระเบียบของ KonMari นักจัดระเบียบบ้าน 
คือให้ถามตัวเองว่าเสื้อผ้าชุดนี้ทำให้มีความสุขหรือไม่
หยิบขึ้นมาลองทาบกับตัว มองซ้ายมองขวา
ถ้าคุณไม่ชอบ ตัวนี้ฉันใส่แล้วขาใหญ่เป็นตอม่อเลย
ตัวนี้ใส่แล้วพุงปลิ้น อ้วนเผละ ใส่แล้วคุณรู้สึกแย่
คุณจะตัดสินใจโยนลงถังง่ายกว่าการคัดว่าจะใส่หรือไม่ใส่เสียอีก

หรือบางชุดเราใส่แล้วไม่สวยหรอก แต่เป็นชุดที่พ่อแม่ซื้อให้ แฟนซื้อให้
มันมีความหมายกับคุณ คุณมักหยิบออกมาใส่ในโอกาสพิเศษ 
แบบนี้ก็เก็บไว้ค่ะ

ให้ดูว่าเสื้อผ้าชุดนั้น จุดประกายความสุขให้คุณหรือไม่
ถ้าคัดแยกเสื้อผ้าแบบนี้มันตัดสินใจง่ายขึ้นมากเลยค่ะ

มีครั้งนึงฉันซื้อเสื้อมาสวยถูกใจมาก แต่เมื่อกลับมาบ้านเอามาลองใส่
ปรากฎว่ามันไม่พอดีตัว มันเหมือนแหนมอะ ฉันก็บริจาคโดยไม่ลังเล
แม้ว่าเสื้อตัวนั้นจะซื้อมาไม่ถึง 1 วันก็ตามที

ประโยชน์ที่ได้จากการจัดบ้านและคัดเสื้อผ้า คือคุณจะรู้ว่ามีเสื้อผ้าเท่าไหร่
บางคนมีกางเกงใน 50 ตัว ทุกวันคุณจะรื้อ ๆ ตู้ หาตัวที่่ยางยืดไม่ย้วย
แต่เมื่อคุณจัด กางเกงในหายไปมากกว่าครึ่ง เหลือไม่ถึง 20 ตัว 
ทุกตัวสภาพดี พับเป็นระเบียบ เช้ามาเห็นแล้วชื่นตาชื่นใจ
มีความสุข สุขภาพจิตดี ไม่ต้องเสียเวลาหาของ
ประหยัดเวลา ประหยัดพื้นที่
คุณจะรู้ทันทีว่ามีกี่ตัว และควรต้องซื้อเพิ่มเมื่อไหร่

การจัดบ้านจึงเป็นการบำบัดจิตอย่างหนึ่ง
การคัดเสื้อผ้าก็เหมือนการคัดเอาสิ่งที่ค้างคาในใจเราออกไป
และในตอนเช้าเมื่อเริ่มต้นด้วยความสุข ไม่หงุดหงิดกับการหาของ
หรือเร่งรีบ คุณก็จะมีความสุขไปทั้งวัน

เอาไปใช้กันนะคะ แล้วมาต่อในตอนที่ 2 กับการพับผ้า จัดเก็บใส่ตู้



DBD Academy

สวัสดีค่ะ วันนี้มีอะไรมาแนะนำ ในโลกออนไลน์ ตอนนี้เราสามารถเรียนรู้ทุกอย่างได้ผ่านออนไลน์ และเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการ โรงเรียน มหาวิทยาลัย ก็มีหลักสูตรทั้งเรียนฟรี และเรียนแบบได้ใบประกาศ รวมถึงการเรียนแบบเสียเงินก็มี ที่จะแนะนำวันนนี้คือเว็บไซต์การเรียนของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า http://dbdacademy.dbd.go.th

ตอนนี้มีอยู่ด้วยกัน 6 หลักสูตร กับ 27 หัวข้อวิชา
และมีวิชาที่สามารถเก็บ ชม. CPD ได้ด้วย

เปิดรับสมัครเรียน 17 เมษายน - 14 มิถุนายน 2562
เปิดเรียนช่วง 17 เมษายน - 10 กันยายน 2562



ในเว็บไซต์มีวิธีการสมัครเรียนอยู่ค่ะ สามารถทำได้ง่าย ๆ เลย แค่อ่านและยอมรับเงื่อนไข
จากนั้นใส่เลขบัตรประชาชน รหัสผ่านที่เรากำหนดเอง และใส่รายละเอียดให้ครบ

ตรงประเภทสมาชิก ถ้าใครได้ CPA แล้ว หรือขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชี
กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ก็จะปริ้นหลักฐานเก็บ ชม. CPD ได้

ส่วนบุคคลทั่วไป ก็เลือกประเภทสมาชิกทั่วไป 


โดยมีระบบการเรียน 2 ระบบ คือ VDO และ Audio เมื่อคลิกเลือกหลักสูตรที่เรียนแล้ว
ให้ Log in อีกครั้ง ด้วยรหัสที่สมัครไว้ค่ะ 

ก็ไปลองเล่นดูค่ะ ได้ความรู้ด้วย เรียนฟรีด้วย สามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา มีระบบซัพพอร์ตหลายอย่าง
ทั้งกระดานสนทนา ส่วนของการขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการเรียน
มีการรายงานผลการเรียน ถ้าใครเคยเรียน e-Learning ในเว็บอื่นมาก่อน
ก็จะเข้าใจระบบค่ะ ใช้งานง่าย ไม่ได้แตกต่างจากเว็บอื่น ๆ มากนัก

Review คดีร้ายสุภาพบุรุษอันตราย

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ คดีร้ายสุภาพบุรุษอันตราย

คดีร้ายสุภาพบุรุษอันตราย
สนพ.แจ่มใส
ติงโม่ เขียน
หยกชมพู แปล
2 เล่ม จบ 
ราคา 629 บาท

ซื้อเรื่องนี้มาอ่านเพราะได้ยินรีวิวจากหลาย ๆ คนว่าสนุกมาก และก็สนุกจริง ๆ ค่ะ
เรื่องนี้ทำเป็นซีรีย์แล้ว ชื่อ นักรัก นักสืบ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นักรัก นักสืบ

เป็นเรื่องราวของสาวน้อยที่พึ่งเรียนจบ เจี่ยนเหยา 
ในช่วงปิดเทอมรับทำงานพิเศษแปลเอกสารให้กับ ศจ.ป๋อจิ้งเหยียน
เจ้าของคฤหาสน์ในเมืองถง ผู้มีนิสัยประหลาด ชอบกินปลามาก
ไม่ค่อยเจอผู้คน หลงตัวเองสุด ๆ 

แต่แล้วทั้งคู่ก็รักกัน มันโรแมนติกมากกก เนื้อเรื่องจะสลับกัน
ระหว่างความรัก กับการสืบคดี ที่กลมกลืนกัน
เมื่อเจี่ยนเหยามาเป็นผู้ช่วย ป๋อจิ้งเหยียนก็สอนทุกอย่างให้เธอ
ศจ.ป๋อเป็นนักจิตวิทยาอาชญวิทยา ศึกษาเรื่องพฤติกรรมของอาชญากร
เพื่อระบุว่าอาชญากรเป็นคนแบบไหนลักษณะยังไง เพื่อช่วยสืบคดี

และคดีที่เขาเองก็เป็นเหยื่อด้วยคือคดีดอกไม้กินคน ป๋อจิ้งเหยียนก็ส่งเขาเข้าคุกไป ก่อนจะเดินทางกลับมาประเทศจีน กลับมาบ้านเกิด 

แต่ฆ่าตกรโรคจิตนั่น แท้จริงแล้วเป็นดอกไม้กินคนเบอร์ 2 ที่ติดคุก 
ส่วนเจ้าเบอร์ 1 อยู่ข้างนอกโดยไม่มีใครรู้ เขาอยากได้จิ้งเหยียนมาเป็นคู่หู
เขาทิ้งสัญลักษณ์ เป็นตัวเลขเลือดไว้ในคดีต่าง ๆ

เรทของเรื่องนี้ 20+ ไม่ได้เน้นอีโรติก แต่ที่เรทสูง เพราะพระเอกของเราทำแต่คดีใหญ่
จับแต่ฆาตกรโรคจิต เลยมีหลายฉากที่ฆ่าอย่างทารุณ ทรมาน และโหดร้าย

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นักรัก นักสืบ

ช่วงท้ายของเรื่องเนื้อหาหนักนิดนึง เพราะเจี่ยนเหยาถูกจับไปทรมาน จิ้งเหยียนต้องวางแผน
ทำทุกอย่างเพื่อช่วยคนรักออกมา เจี่ยนเหยาต้องอดทนกับการทรมาน
เพื่อรอจิ้งเหยียนมาช่วย 

อ่านแล้วฟิน ๆ กับนิสัยพระเอก น่ารัก โรแมนติก รักนางเอกม้ากมาก 
เหมือนกับผู้ชายที่มีนิสัยเรื่องมาก หรือจู้จี้ในบางเรื่อง น่ารำคาญ
ผู้ชายหล่อ ฉลาด รวย อาจเป็นที่หมายปองของผู้หญิงทุกคน
แต่นิสัยบางอย่างไม่ใช่ทุกคนจะรับได้ เจี่ยนเหยากับจิ้งเยี่ยนก็เป็นแบบนั้น

ถ้า 5 ดาว ก็ให้คะแนน 3.5 เพราะเรื่องนี้มีความหนักหน่วงในส่วนของคดี
ทั้งในส่วนของซีรีย์ หรือหนังสือ การดำเนินเรื่องเกี่ยวกับคดีของ
ดอกไม้กินคนทั้งหมด คดีย่อย ๆ ที่เกิดขึ้นมา มีความเกี่ยวพัน
และมีเบื้องหลังที่ดอกไม้กินคนหมด มีเรื่องดราม่าในช่วงท้าย

ได้ความรู้ด้านจิตวิทยาด้วย ติงโม่คือนักเขียนที่น่าชื่นชมมาก 
รายละเอียดในการแต่งนิยาย ข้อมูลต่าง ๆ ดีมากจริง ๆ 
มันมีความสมจริง และแสดงมิติของตัวละครได้ดี
มีเหตุมีผล ว่าใครเป็นแบบไหนมีนิสัยยังไง เพราะเลี้ยงดูมาแบบไหน
โตมาแบบไหน  สายฟินที่รอดูเรื่องฟิน ๆ อาจไม่ชอบ
และใครที่ไม่ชอบแนวสืบคดี ก็ผ่านไปเลยจ้า

เรื่องนี้ยังมีตัวละครน่ารัก ๆ อย่างเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของพระเอก
คุณหมอผู้มีความสามารถ ทำตัวเหมือนแม่ เหมือนพี่เลี้ยง และเหมือนเลขา
ของจิ้งเหยียน คอยดูแล ใส่ใจและช่วยเหลือทุกอย่าง

ใครที่ชอบแนวนี้ก็ไม่ควรพลาดค่ะ

รีวิว วิธีบริหารเวลาให้คุ้มค่าที่สุดในแต่ละวัน

สวัสดีค่ะ  วันนี้มารีวิวหนังสือดีๆเกี่ยวกับการบริหารเวลา  อยากบอกว่าพลอยเป็นคนหนึ่งที่ทำงานเยอะมาก  อยู่บ้านก็ไม่เบื่อ ไม่ต้องออกไปเที่ยวไหนก็ได้ เพราะยุ่งตลอดเวลา ขนาดไม่มีงานก็ยังหางานให้ตัวเองทำได้ ต่อให้ไม่ทำงานประจำและอยู่บ้านเฉยๆ ก็ไม่ว่างค่ะ  เพราะเป็นคนอยู่เฉยไม่ค่อยได้  และชอบทำอะไรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกันด้วย


จึงเป็นที่มาของการซื้อหนังสือเล่มนี้ เพราะว่ามีปัญหากับการทำงาน ทั้งงานประจำและอาชีพเสริม ซึ่งพลอยรู้สึกว่ามันดึงเวลาทั้งชีวิตไป และทำให้เกิดปัญหาด้านความสัมพันธ์ด้วย  เลยคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว 

หนังสือเล่มนี้ราคา 89 บาท  บางมากค่ะ  สามารถอ่านจบได้ใน30นาที หรือจะอ่านทีละบท  หรือเลือกอ่านบทที่อยากรู้ก็ได้  เพราะมีคำถามนำในแต่ละบทว่าเราอยากรู้เรื่องอะไรบ้าง ก็สามารถอ่านบทนั้นได้เลย

สรุปเลยคือ  1. ต้องตั้งเป้าหมายก่อนว่าในแต่ละวันต้องทำอะไรบ้างและอยากทำอะไร
2. ลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ  และดูว่าโจรขโมยเวลาคืออะไร  
3. คือการวางแผนโดยใช้ A L P E N
4. จัดลำดับความสำคัญของงาน A B C และการโอนงานให้คนอื่น
5. จัดระเบียบแต่ละวัน  เวลาไหนควรทำอะไรและคนเรามีประสิทธิภาพการทำงานช่วงเวลาไหนถึงดีที่สุด วางแผนวันพรุ่งนี้ในเย็นวันนี้  และมีทัศนคติเชิงบวก

สรุปของหนังสือเล่มนี้ก็จะประมาณนี้  ดีตรงแจกแจงขั้นตอนไว้ชัดเจน  เนื้อหาสั้นกระชับ  มีแต่ใจความสำคัญไม่ยืดเยื้อ

เดี๋ยวพลอยจะลงรูปการวิเคราะห์และวางแผนที่ได้ลองทำจากหนังสือเล่มนี้ให้ดูกันคร่าวๆ  



มีคำพูดหนึ่งที่หลายๆคนชอบพูดกันคือไม่มีเวลา  
ช่างไม้เลื่อยไม้อยู่ในป่า  เขาใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเลื่อย  
และได้ไม้ที่น้อยกว่าคนอื่น  เมื่อมีคนเดินผ่านไป และทักเขาว่า
เลื่อยของคุณไม่คมแล้ว  ทำไมไม่ลับสักหน่อยละ
ช่างไม้ตอบว่า  ฉันไม่มีเวลา


เรื่องนี้บอกให้ทราบว่า คุณเอาแต่พูดว่าไม่มีเวลา  ถ้าหากคุณใช้เวลา  10  นาที 
เพื่อลับใบเลื่อยให้คม  คุณจะเลื่อยได้เร็วขึ้น  และได้ไม้มากขึ้น
ใช้เวลาน้อยลงกว่าเดิม
แต่คุณไม่ทำเพราะคิดว่า  10 นาทีนั้น  คือการเสียเวลา
สละเวลาในแต่ละวันเพื่อวางแผน  และเพิ่มเวลาในชีวิตคุณให้มากขึ้น


สิ่งที่คุณมองว่าเสียเวลา  จริงๆมันไม่เสียเวลาเลย
ถ้าคุณสละเวลาเล็กน้อย  เรียนรู้  คุณจะทำงานไม่ผิดและไม่ต้องใช้เวลาทั้งหมไปกับการแก้งาน
ถ้าคุณสละเวลาสักเล็กน้อย สอนงานลูกน้อง  คุณจะแบ่งงานให้ลูกน้องทำได้โดยไม่ต้องทำเองทั้งหมดแล้วมาบ่นทีหลัง
ถ้าคุณส่งลูกน้องไปเรียนงาน  อาจเสียเวลาบางส่วนไป  แต่ก็ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับการตรวจเจอแต่งานผิดงานแก้

ฉะนั้นแล้วการบริหารเวลาจึงไม่ใช่เรื่องของการแบ่งว่าเวลาใดจะทำอะไร 
 แต่เป็นการคิดว่า จะทำกิจกรรมใด ให้มีประสิทธิภาพสูง  ใช้เวลา20%
เพื่อให้ได้ผล 80%

ที่สำคัญทำแล้วก็ต้องหมั่น  ปรับปรุง  ในแต่ละวัน  อยู่ที่วินัย  ต้องทำให้สม่ำเสมอ  ถึงจะได้ผล



วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

รีวิว สิงห์สถิต

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ สิงห์สถิต

เรื่อง สิงห์สถิต
สนพ. ห้องสมุด
ผู้แต่ง FengHeYouYue
ราคาปกติ 375


ความเห็นส่วนตัว เรื่องนี้สนุกค่ะ แนวพารานอมอล ระหว่างคน กับเสือดาว 
คิดว่าประมาณ 18+ เพราะถ้าใครเคยอ่านพารานอมอลของต่างประเทศ
แถบอเมริกาหรือยุโรป จะทราบว่าเรื่องแนวนี้ 18+ ถึง 25+
พอเอามาแปลไทยก็จะซอฟลงไปพอสมควร
เรื่องนี้จัดว่าเรท มีฉาก NC ใครที่ไม่ชอบ
ควรผ่านเลยไปค่ะ ใครที่อ่านแนว
ทะเลทรายมาบ้าง ก็จะชอบ แรงกว่าแนวทะเลทรายบ้านเรานิดนึง
แต่ถ้าเทียบกับทางยุโรป หรือนิยายอีโรติกโดยเฉพาะก็จะน้อง ๆ ไปเลย

เรื่องนี้เกี่ยวกับเด็กสาววัยขบเผาะ ม.ปลาย "จี้เสี่ยวโอว" 
ที่ไปตั้งแคมป์กับเพื่อน ๆ แต่ยังไม่ทันถึงที่หมายเลย อยู่ ๆ รถที่นั่งมาก็เสียหลัก 
เธอกระเด็นตกผาไป แล้วก็หลุดมิติไปยังโลกอนาคต 
โลกที่มนุษย์สูญพันธุ์กันไปหมดแล้ว มีเพียงสัตว์ป่าหลายสายพันธุ์ที่วิวัฒนาการตนเอง
จนสามารถแปลงร่างคล้ายมนุษย์ได้ ยิ่งเผ่าพันธุ์ใดเหมือนมนุษย์มากเท่าไหร่ แปลว่าเก่งกาจมากเท่านั้น

พอหลุดมิติมา เธอก็ต้องเอาชีวิตรอดด้วยของในกระเป๋า ที่เป็นเหมือนมิติน้อย ๆ
เชื่อมต่อกับที่เก็บของของรถบัส นั่นทำให้เธอมีอาหารและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เพื่อน ๆ เอามา
แล้วเธอก็ไปช่วยชีวิตแมวน้อยตัวหนึ่ง "ไรอัล" (หรอออ) จริง ๆ คือเสือดาวตัวน้อย
คือร่างของพระเอก ที่ถูกทำร้ายจนกลับเป็นร่างสัตว์ แต่ไหงตัวหดกลายเป็นลูกเสือไปได้ก็ไม่รู้

เสี่ยวโอว ต้องการกลับบ้าน ไรอัลก็ต้องการกลับร่างเดิม เพื่อกลับไปยังฝูง ทั้งสองคนร่วมมือกัน
เพื่อเดินทางหาคำตอบ แต่แล้วศัตรูของไรอัลก็ตามมา และไรอัลก็ได้กลับร่างเดิม
เขาจึงพาเสี่ยวโอวกลับไปเผ่าในฐานะผู้หญิงของเขา

แต่ตัวเมียในทุกเผ่านั้นมีน้อยมาก จึงเกิดการแย่งตัวเมียกัน
 และบางเผ่าก็ใช้ตัวเมียร่วมกัน บางเผ่าก็จะมีคู่ชีวิต หรือผัวเดียวเมียเดียว 
เสี่ยวโอวดูจะถูกหมายตาไว้จากหลายเผ่า แต่ก็รอดมาได้ 555

ไม่สปอย แต่ให้อ่านเอาเอง จบดีค่ะ ไปลุ้น ๆ กันว่าสุดท้ายจะลงเอยยังไง 
นางเอกได้กลับบ้านไหม แล้วพระเอกตามนางเอกไปไหม หรือนางเอกจะตัดสินใจ
อยู่กับพระเอก เล่มแรกจะผจญภัย หลัง ๆ ก็จะ NC เยอะหน่อย 
โรแมนติกมาก เพราะพระเอกรักนางเอกมาก ทำทุกอย่างเพื่อนางเอก
ถือว่าเป็นนิยายอีกเรื่องที่น่าสนใจ




วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ย้ำปม ก็เหมือนเอาน้ำเกลือราดแผลสด

หลาย ๆ ครั้งก็ไม่เข้าใจว่าคนที่ทำแบบนั้นเขาทำไปเพื่ออะไร (ตอนนี้ก็ไม่เข้าใจ)
หรือเขาไม่ทันคิด คิดไม่ถึง หรืออะไร

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ อ้วน

บางคนอ้วน เขาก็เครียดอยู่แล้วนะ ยังเจอคำถามย้ำอีก ทำไมอ้วน (กินไง ถามได้)
ไปทำไรมาถึงอ้วน (กินไง กิน )
ทำไมไม่ผอม (ก็อ้วนไงเล่า)

เด็กบางคนพ่อแม่เลิกกัน ก็ไปถามอีก
ทำไมเลิกกัน เลิกกันทำไม
พ่อยู่ไหน แม่อยู่ไหน
ตอนนี้อยู่กับใคร

คนไม่สนิทกันเขาก็ไม่ถามกันนะ คนสนิทกันเขาอาจมีถามกันบ้าง
แต่ไอ้ที่ใน 1 ชม.คำถามไม่ซ้ำกัน
ถามย้ำ ๆ แต่เรื่องเดิม ๆ
คือไร....
ไม่เข้าใจ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ทะเลาะ

บางคนสามีนอกใจ มีคนอื่น
ก็ไปถามเขา ทำไมเขาถึงไป (ถ้ารู้มันคงไม่ไปแล้ว)
ไปเจอคนใหม่ที่ไหน (จะไปรู้กะมันไหม)
มันไปได้กันตอนไหน (เอ้า ไม่ได้แอบใต้เตียง)
เธอไปทำอะไรให้เขาไม่ชอบรึเปล่าเขาถึงทิ้ง
(เอ้า.... ไหงวกมาทางนี้)

คือคุณคะ เรื่องต่าง ๆ มันก็ทำคนเขาเสียใจ
เจ็บใจ ช้ำใจพอแล้ว แผลยังสด ๆ 
คนพวกนี้ก็ไปถามย้ำ ๆ อยู่ได้

บางคนก็ซื่อค่ะ เขาไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ
เรื่องนี้เข้าใจ เพราะเคยเจอกับตัว
สังคม สภาพแวดล้อม ครอบครัว
เขาเปิดเผยมาก คุยกันหมด เรื่องส่วนตัวก็เอามาคุยกัน
คนในหมู่บ้านเขาเป็นแบบนี้กัน
เขาจึงไม่รู้สึกว่าการถามแบบนี้มันผิด

แต่ให้ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราค่ะ 
ถ้าเราเจอคำถามแบบนี้ ย้ำ ๆ 
เรารู้สึกยังไง นั่นแหละค่ะ
คนที่เราไปถามเขาก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน

แต่บางคนก็ไม่ได้ซื่อนะคะ
จงใจเลย รู้ว่าทำคนรู้สึกแย่
ก็ยังจงใจพูด คนประเภทนี้เลี่ยงได้ให้เลี่ยงค่ะ
เราคงไม่สามารถไปแก้อะไรเขาได้
แก้ที่ตัวเราเองดีกว่าค่ะ

ส่วนคนที่ไม่ได้เจตนา ไม่รู้ตัว
ก่อนจะพูดจะถาม ก็เอาใจเขามาใส่ใจเราก่อนนะคะ

เกมความสัมพันธ์ ที่ไม่ต้องชนะเสมอไป

หลาย ๆ ครั้งในชีวิตเรา ก็ทำผิดพลาดโดยไม่รู้ตัว 
หนึ่งในนั้นก็คือการเอาชนะ ในความสัมพันธ์หลาย ๆ คู่ต้องเคยทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
 เช่น ฉันคิดว่าแยมส้มอร่อยกว่า หรือสีนี้ดีกว่าสีนั้น 
สุดท้ายก็จบด้วยการทะเลาะกัน เถียงกันไม่จบสิ้น
เพราะอยากเอาชนะ อยากให้อีกฝ่ายยอมรับ
อยากยืนยันว่าที่ตัวเองคิดคือสิ่งที่ถูกต้อง

เครดิต:Getty Images/iStockphoto

เราจะเถียงกันไปทำไม ต้องเอาชนะกันไปทำไม
เราจำเป็นจริง ๆ หรือ ที่ต้องเอาชนะ
คนที่เขารักเรา
รู้สึกภูมิใจ และมีความสุขจริงหรือ
เราจำเป็นจริง ๆ หรือ ที่ต้องทำให้
คนที่เรารักเขาพ่ายแพ้
เขารู้สึกแย่


ไม่เลย คุณไม่มีความสุข คู่รักของคุณก็เช่นกัน
แล้วจะเอาชนะไปเพื่ออะไร
ไม่จำเป็นเลยต้องเอาชนะ
คนเราเกิดมาต่างกัน เลี้ยงดูต่างกัน
ย่อมมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน

แค่เราให้เกียรติกัน เคารพซึ่งกันและกัน
และรับความคิดแตกต่างให้ได้
เธอคิดแบบนี้
ฉันคิดแบบนี้
และถ้าคิดแตกต่างกันก็ต้องหาจุดที่ยอมรับ
ร่วมกันได้

ความสัมพันธ์ ถ้าจะให้รอด
ไม่ต้องเอาชนะเสมอไปก็ได้
เพราะสุดท้ายจะไปไม่รอดและคุณก็ได้แพ้
ในเกมความสัมพันธ์นี้แล้ว

แต่ถ้าคุณยอมแพ้บ้าง ชนะบ้าง ถอยคนละก้าว
หาจุดร่วมกัน ไม่ต้องชนะกัน
มันก็ไปกันรอด 
คุณก็ชนะเกมความสัมพันธ์นี้แล้ว

วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

เบื่อทุกอย่าง

เคยเป็นกันบ้างไหม พอเรามุ่งมั่นทำอะไรสักอย่าง แล้วสุดท้ายเราก็เลิกทำมันไป ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เราพยายามแทบตาย แต่ความพยายามของเขามันเหมือนไร้ค่า สุดท้ายเราก็ท้อ แล้วก็ถอย

เคยไหมเวลาเราจะลดน้ำหนัก เราตื่นแต่เช้ามาออกกำลังกาย สุดท้ายคือเราโดนดูถูกว่าจะทำไปได้กี่วัน  เราโดนล้อเลียน ขำ ให้อับอาย คนพูดสนุก เขาคงคิดว่าขำ ๆ แต่คนฟังรู้สึกแย่ ทั้ง ๆ ที่พยายามมากเท่าไหร่ น้ำหนักลดลงได้ 1 กิโล อาจจะ 1 สัปดาห์ หรือ 15 วัน มันก็ลดลง แต่ก็ไม่เคยได้กำลังใจ ยังคงมีเสียด่า ว่า ดูถูก ล้อเลียน เยาะเย้ย สุดท้ายเราก็จะถอยไปเอง เราจะทนกับสภาวะแบบนี้ได้นานแค่ไหน 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี แต่เชื่อว่าไม่มีใครทนได้ตลอดไป

เคยไหม ตื่นมาอ่านหนังสือเรียนทุกวัน เตรียมบทเรียนทุกวัน แต่ผลการเรียนก็ออกมาไม่ดี เรียนพิเศษหลังเลิกเรียน เรียนเสาร์-อาทิตย์ แต่ก็ออกมาไม่ดี แล้วเรายังถูกด่า ถูกว่า ไอ้โง่ ไอ้ควาย โดนล้อว่าให้เลิกเรียนแล้วไปไถนา สารพัดคำดูถูก เราก็ทนเพราะต้องการพิสูจน์ ก็ทำไป 1 ปี ผ่านไป ไม่ได้ผล 3 ปีผ่านไปไม่ได้ทน ใครจะทนได้ตลอดไป

เคยไหม ตั้งใจทำงานชิ้นหนึ่งให้ออกมาดีที่สุด แต่เมื่อเราพูดไม่มีคนเชื่อ ไม่มีคนรับฟัง เราก็ทน พิสูจน์ตัวเอง ขยันให้มาก พยายามให้มากขึ้น ตั้งใจให้มากขึ้น แต่เราก็ยังไม่ได้รับความเชื่อใจ ความไว้ใจ คนอื่นเอาไอเดียเราไปพูด มีคนชื่นชม เราพูดไอเดียออกไป มีแต่คนด่า ทั้งที่ไอเดียแบบเดียวกัน งานของเรา สงสัย ข้องใจอะไรไม่เคยถาม ต้องไปถามคนอื่น กับความรู้สึกแบบนี้ ที่ต้องทน จะทนได้นานเท่าไหร่

เคยไหม ไม่มีคนคบ ไม่มีคนคุย เพราะเราแตกต่าง เช่น บ้านเราจน เราไม่มีเงินเที่ยว ตปท. เรามาจาก ตจว. ต้องถีบตัวเอง ใช้แบรนด์เนม พยายามให้เหมือนคนอื่น ๆ ให้ได้รับการยอมรับ ถึงเขาทำดีด้วย แต่สุดท้ายเขาก็ดูถูกเราอยู่ดี เราจะทนกับความรู้สึกนี้ได้ยังไง

ความรู้สึกเสียใจ ไร้ค่า ไม่ได้รับความไว้ใจ เชื่อใจ เชื่อถือ มันทำให้หลาย ๆ คนหยุดที่จะก้าวต่อไป แต่หลายคนก็ยังสู้ไม่ยอมแพ้  บางคนไม่แคร์คนอื่น มั่นใจและไปต่อ แต่ก็ต้องมาสะดุด เพราะคนที่ทำเราช้ำ เป็นคนในครอบครัว เป็นคนที่รัก เป็นคนที่เคารพ ไว้ใจ


มันเป็นความรู้สึกแย่ยิ่งกว่าคนอื่นมาพูด มันพยายามหรือฟื้นตัวได้ช้ากว่าเดิม และมันท้อหนัก ลุกยากกว่าเดิม บางคนก็ต้องหยุดไปพักกาย พักใจ สมอง แล้วกลับมาลุยต่อ แต่พอหยุดไปช่วงหนึ่งมันก็สายไปเสียแล้ว

เราช้าไปแล้ว เราตามไม่ทันแล้ว และเราต้องพยายามหนักกว่าเดิมเพื่อให้กลับไปจุดเดิม โดยมีเสียดูถูกที่ดังกว่าเดิม

ทำไมเด็กบางคนติดเกม เขาเป็นฮีโร่ได้ ในเวลาที่เขาเล่นเกม เขามีโลก 2 ใบ ใบหนึ่งที่มีคนรัก และอีกใบที่เขารู้สึกไม่มีใคร

ทำไมบางคนเกเร เพราะเขารู้สึกมีพรรคพวก มีเพื่อนพ้องที่ตายแทนเราได้ เขาเป็นที่พึ่งพาของเพื่อน และเพื่อน ๆ ก็เป็นที่ปรึกษาให้เขา

บางคนเป็นใครอีกคนหนึ่งที่ไม่ใช่ตัวเราในโลกออนไลน์ เพราะมีคนชื่นชม มีคนชื่นชอบ

บางคนก็ติดนิยายหนักมากเพราะเขาอยากมีความสุขในโลกนิยาย และตัดความรู้สึกแย่ ๆ ออกไป

บางคนติดเว็บหาคู่ เขาแค่อยากได้ใครสักคนที่รักและเอาใจใส่เขา

แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไร ที่ทำให้ท้อ ให้เบื่อ อยากให้รู้ว่าคุณไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึก ยังมีตรงนี้อีกคนที่ก็รู้สึกไม่ต่างกัน

ท้อได้ แต่อย่าถอย อย่าให้ใครมาดูถูกเรา เอาชนะพวกนั้นซะ ถ้าขาดกำลังใจก็คิดว่ายังมีคนแบบเดียวกันเป็นกำลังใจให้อยู่ สู้ ๆ